พระปิดตาเนื้อแร่เหล็กไหล สีเงินยวง ของหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์

พระปิดตาเนื้อแร่เหล็กไหล ของหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ ไม่ได้มีการระบุปีสร้างที่เป็นปีเดียวโดดๆ เหมือนเหรียญกษาปณ์ แต่เป็นการสร้างในลักษณะ "ทำต่อเนื่อง" ในช่วงเวลาที่ท่านดำรงสังขารอยู่ โดยเริ่มมีการทำพิธีอัญเชิญเหล็กไหลและสร้างวัตถุมงคลเหล่านี้ออกมาตั้งแต่ประมาณ ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ครับ

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมขอสรุปข้อมูลสำคัญเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ:

1. ช่วงปีที่เริ่มสร้าง (ยุคแรก)
เริ่มประมาณปี 2530: หลวงพ่อหวลเริ่มทำพิธีอัญเชิญเหล็กไหลเพื่อนำปัจจัยมาบูรณะวัดพุทไธสวรรค์ โดยในช่วงแรกๆ วัตถุมงคลอาจจะมีรูปแบบไม่หลากหลายนัก แต่ต่อมาจึงมีการทำพิมพ์พระต่างๆ มากขึ้น รวมถึง "พิมพ์พระปิดตา"

การสร้างต่อเนื่อง: ท่านไม่ได้สร้างครั้งเดียวแล้วจบ แต่ท่านทำพิธีอัญเชิญเรื่อยมาตามวาระและโอกาส เพื่อมอบให้แก่ผู้ทำบุญบูรณะวัด ดังนั้นพระปิดตาหลวงพ่อหวลจึงมีหลายยุคในช่วงปี 2530 - 2563 (ท่านมรณภาพปี 2563)

2. กระบวนการสร้าง (ความพิเศษ)
ไม่ได้หล่อจากโรงงาน: พระเหล็กไหลของท่านใช้วิธีโบราณที่เรียกว่า "พิธีหุง/อัญเชิญเหล็กไหล"

ใช้หุ่นเทียน: ท่านจะปั้นหุ่นเทียนเป็นรูปพระพิมพ์ต่างๆ (เช่น พระปิดตา, พระสมเด็จ, พระกริ่ง) เตรียมไว้ แล้วทำพิธีอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งลงมาตามสายสิญจน์เพื่อก่อตัวแทนที่หุ่นเทียนนั้น ทีละองค์

เอกลักษณ์: เนื่องจากเป็นการหล่อแบบธรรมชาติ (Man-made nature) ผิวพรรณของพระแต่ละองค์อาจจะไม่เรียบตึงเหมือนปั๊มโรงงาน และมักจะมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

3. สีและวรรณะของเหล็กไหล
พระปิดตาของท่านจะมีหลายสี (วรรณะ) ซึ่งบ่งบอกถึงบารมีและระดับของธาตุกายสิทธิ์นั้นๆ โดยหลักๆ ที่พบเห็นได้แก่:

สีเงินยวง: สีขาวเงินแวววาว (พบบ่อยและเป็นที่นิยม)

สีปีกแมลงทับ: สีเขียวเข้มเหลือบน้ำเงิน สวยงามและหายากกว่า

สีทองท้องปลาไหล: ออกสีทองเหลือบเหลือง

สรุปคำแนะนำสำหรับผู้สะสม
หากคุณมีพระปิดตาเนื้อเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลอยู่:

ปีสร้าง: ให้ตีว่าเป็นช่วงปี 2530 - 255x (ก่อนท่านมรณภาพ) โดยวงการมักจะไม่ได้แยกปีละเอียดเหมือนเหรียญ แต่จะดูที่ "วรรณะของเหล็ก" และ "พิมพ์ทรง" ว่าเป็นยุคต้นหรือยุคปลาย

พุทธคุณ: โดดเด่นเรื่องมหาอุตม์ คงกระพันชาตรี และแคล้วคลาด รวมถึงเรื่องโชคลาภตามความเชื่อเรื่องเหล็กไหล